ค. ในเซลล์ หรือถ้าคุณพิมพ์ 36/12/ Excel จะแปลงค่าเป็น 1/12/1936 ก่อน และแสดง 1 ธ.
ครั้งก่อนผมได้แนะนำ รวม 10 เทคนิค Excel ง่ายๆ ที่ทำให้คุณทำงานเร็วขึ้น ไปแล้ว และได้การตอบรับดีมากๆ (ขอบคุณมากเลยครับ) วันนี้ผมเลยจะขอนำเสนอ รวม 5 เทคนิคการเขียนสูตรใน Excel ที่คุณอาจยังไม่รู้มาก่อน! ซึ่งเป็นเทคนิคการทำงานเกี่ยวกับการเขียน สูตรใน Excel ที่จะช่วยให้เพื่อนๆ เขียนสูตรได้เร็ว ถูกต้อง และตรวจสอบสูตรที่คนอื่นเขียนได้อย่างรวดเร็วอีกด้วย 1. หากเจอสูตรที่ใช่ ให้กด Tab เลย เพื่อเลือกใช้ เวลาเขียนสูตรใน cell ด้วยเครื่องหมาย = แล้วเริ่มพิมพ์ชื่อสูตร เช่น จะพิมพ์สูตร VLOOKUP เมื่อเราเริ่มพิมพ์ว่า =V ไปเพียงตัวเดียว มันจะขึ้นรายชื่อสูตรทุกตัวที่ขึ้นต้นด้วยตัว V มาให้เลือก… 2. F2, F3, F4, F9 จำไว้ให้ดี ใช้เขียนสูตรดีนักแล กด F2 เพื่อเข้าสู่ Edit Mode (เข้าไปแก้สูตร เช่นเดียวกับการกดดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Cell หรือกดที่ Formula Bar ข้างบน) หลังจากอยู่ใน Edit Mode เราจะสามารถ… 3. Tool Tips ของสูตร ก็มีลูกเล่นนะ Tool Tips ก็คือสิ่งที่มันขึ้นมาหลังจากที่เราเขียนสูตรเข้าไปหลังเครื่องหมายเท่ากับ โดยมันจะบอกว่าสูตรนี้ต้องการ Argument อะไรบ้าง 4.
บทความวิกิฮาวนี้จะแนะนำวิธีสร้าง macro อย่างง่ายใน spreadsheet ของ Excel ส่วน 1 ของ 3: เปิดใช้งาน Macro 1 เปิด Excel. ขั้นตอนการเปิดใช้งาน macro ของ Excel 2010, 2013 และ 2016 จะเหมือนกัน แต่ถ้าเป็น Excel เวอร์ชั่น Mac จะแตกต่างกันนิดหน่อยตามรายละเอียดข้างล่าง 2 คลิก tab File. ถ้าใช้ Excel ใน Mac ให้คลิกเมนู "Excel" 3 คลิก Options. ถ้าใช้ Excel ใน Mac ให้คลิก "Preferences" ในเมนู 4 คลิก Customize Ribbon. ถ้าใช้ Excel ใน Mac ให้คลิก "Ribbon & Toolbar" ในส่วนของ "Authoring" 5 ติ๊กช่อง Developer ในรายชื่อทางขวา. ถ้าใช้ Excel ใน Mac จะเห็น "Developer" ในรายชื่อ "Tab or Group Title" 6 คลิก OK. จะเห็น tab Developer โผล่มาท้ายรายชื่อ tab ส่วน 2 ของ 3: บันทึก Macro 1 ลองทำขั้นตอนที่จะบันทึก macro จนแน่ใจก่อน. เวลาจะบันทึก (record) macro ทุกอย่างที่คุณคลิกจะถูกบันทึกไว้ เพราะงั้นถ้าพลาดไปแม้แต่นิดเดียวก็ทำขั้นตอนทั้งหมดพังได้ ให้ซักซ้อมการคลิกคำสั่งที่ต้องการจนแน่ใจก่อน แล้วค่อยเริ่มบันทึก จะได้คลิกรวดเร็ว มั่นใจ ไม่ผิดพลาด 2 คลิก tab Developer. 3 คลิก Record Macro. จะอยู่ในหัวข้อ Code ของ ribbon หรือกด Alt + T + M + R เพื่อเริ่ม macro ใหม่ (เฉพาะ Windows) ตั้งชื่อ macro.
เมื่อคุณสร้างสูตรอย่างง่ายหรือสูตรโดยใช้ฟังก์ชัน คุณสามารถอ้างถึงข้อมูลในเซลล์เวิร์กชีตได้ โดยการรวมการอ้างอิงเซลล์ไว้ในอาร์กิวเมนต์ของสูตร ตัวอย่างเช่น เมื่อคุณใส่หรือเลือกการอ้างอิงเซลล์ A2 สูตรจะใช้ค่าของเซลล์นั้นในการคํานวณผลลัพธ์ คุณยังสามารถอ้างอิงช่วงของเซลล์ได้ For more information about cell references, see Create or change a cell reference. For more information about formulas in general, see Overview of formulas. คลิกเซลล์ที่คุณต้องการใส่สูตร ในแถบสูตร ให้พิมพ์ = (เครื่องหมายเท่ากับ) เลือกทำอย่างใดอย่างหนึ่งต่อไปนี้ เลือกเซลล์ที่มีค่าที่คุณต้องการหรือพิมพ์การอ้างอิงเซลล์ของค่านั้น คุณสามารถอ้างอิงเซลล์เดียว ช่วงของเซลล์ ตำแหน่งที่ตั้งในเวิร์กชีตอื่น หรือตำแหน่งที่ตั้งในเวิร์กบุ๊กอื่นก็ได้ เมื่อเลือกช่วงของเซลล์ คุณสามารถลากเส้นขอบของเซลล์ที่เลือกเพื่อย้ายส่วนที่เลือก หรือลากมุมของเส้นขอบเพื่อขยายส่วนที่เลือกได้ 1. การอ้างอิงเซลล์แรกคือ B3 ซึ่งเป็นสีฟ้า และช่วงของเซลล์จะมีเส้นขอบสีฟ้าที่มีมุมสี่เหลี่ยม 2.
ใน toolbar Developer เพื่อเซฟ macro ส่วน 3 ของ 4: เซฟ Spreadsheet ที่เปิดใช้ Macro 1 ทำไมต้องเซฟ spreadsheet โดยที่เปิด macro ไว้. ถ้าไม่เซฟ spreadsheet เป็น spreadsheet ที่เปิดใช้ macro ไว้ (ฟอร์แมต XLSM) macro จะไม่ถูกเซฟเป็นส่วนหนึ่งของ spreadsheet ทีนี้คนที่ใช้คอมเครื่องอื่น ก็จะใช้ macro นั้นไม่ได้ ถึงคุณจะส่ง workbook ไปให้เขาก็เถอะ 2 คลิก File. ที่มุมซ้ายบนของหน้าต่าง Excel (Windows) หรือหน้าจอ (Mac) เพื่อขยายเมนูลงมา 3 คลิก Save As. ที่เป็นตัวเลือกทางซ้ายของหน้าต่าง (Windows) หรือในเมนูที่ขยายลงมา (Mac) ดับเบิลคลิก This PC. ในคอลัมน์ตำแหน่งเซฟไฟล์ ทางซ้ายของหน้าต่าง แล้วหน้าต่าง "Save As" จะเปิดขึ้นมา ถ้าใช้ Mac ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป 5 ตั้งชื่อไฟล์ Excel. ในช่อง "Name" ให้พิมพ์ชื่อ spreadsheet ของ Excel ตามต้องการ เปลี่ยนฟอร์แมตของไฟล์เป็น XLSM. คลิกช่อง "Save as type" ให้ขยายลงมา แล้วคลิก Excel Macro-Enabled Workbook ในเมนูที่ขยายลงมา [2] ถ้าใช้ Mac ให้เปลี่ยน "xlsx" ท้ายชื่อไฟล์เป็น xlsm 7 เลือกตำแหน่งเซฟไฟล์. คลิกโฟลเดอร์ที่จะเซฟไฟล์ Excel (เช่น Desktop) ถ้าใช้ Mac ให้คลิกช่อง "Where" ให้ขยายลงมาก่อน 8 คลิก Save.
ถ้าจะใช้ macro ต้องเซฟ workbook เป็นฟอร์แมต macro-enabled ของ Excel คลิกเมนู File แล้วเลือก Save คลิกเมนู File Type ล่างช่องพิมพ์ชื่อไฟล์ คลิก Excel Macro-Enabled Workbook ส่วน 3 ของ 3: ใช้ Macro 1 เปิดไฟล์ macro-enabled workbook. ถ้าปิดไฟล์ไปก่อนเปิดใช้ macro จะมีให้ enable content ก่อน 2 คลิก Enable Content. ที่ด้านบนของ spreadsheet ในแถบ Security Warning ตอนที่ไฟล์ macro-enabled workbook เปิดขึ้นมา กรณีนี้เป็นไฟล์ของคุณเอง ก็มั่นใจได้เรื่องความปลอดภัย แต่ถ้าเป็นไฟล์ macro-enabled จากแหล่งอื่น เวลาเปิดต้องระวัง 3 กดคีย์ลัดเพื่อเริ่มใช้ macro. พอจะใช้ macro เมื่อไหร่ ก็กดคีย์ลัดที่ตั้งไว้ได้เลย 4 คลิกปุ่ม Macros ใน tab Developer. เพื่อแสดงทุก macro ที่มีใน spreadsheet ปัจจุบัน 5 คลิก macro ที่จะใช้. 6 คลิกปุ่ม Run. macro จะเริ่มทำงานในเซลล์ปัจจุบัน หรือส่วนที่เลือกไว้ 7 ดูโค้ดของ macro. ถ้าอยากรู้เพิ่มเติมว่าโค้ดของ macro หน้าตาเป็นยังไง ให้เปิดโค้ดของ macro ที่คุณสร้าง แล้วลองปรับแต่งตามใจชอบ คลิกปุ่ม Macros ใน tab Developer คลิก macro ที่จะดูโค้ด คลิกปุ่ม Edit ดูโค้ดของ macro ในหน้าต่างแก้ไขโค้ด Visual Basic เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 47, 569 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
ให้หาเจอง่ายๆ โดยเฉพาะถ้าจะสร้างหลาย macro หรือจะใส่คำอธิบายไว้ก็ได้ ว่า macro นี้ใช้ทำอะไร 5 คลิกช่อง Shortcut key. คุณกำหนดคีย์ลัดให้ macro นั้นได้ จะได้ใช้ง่ายๆ แต่ไม่จำเป็นเสมอไป 6 กด ⇧ Shift ตามด้วยตัวอักษร. เพื่อสร้างคีย์ลัด Ctrl + ⇧ Shift + ตัวอักษร ไว้ใช้ macro ถ้าใช้ Mac ให้กด ⌥ Opt + ⌘ Command + ตัวอักษร 7 คลิกเมนู Store macro in. 8 คลิกตำแหน่งที่จะเซฟ macro. ถ้าจะใช้ macro เฉพาะกับ spreadsheet นั้น ก็ปล่อยเป็น "This Workbook" ไว้ แต่ถ้าอยากใช้ macro กับทุก spreadsheet ให้เลือก "Personal Macro Workbook" 9 คลิก OK. เพื่อเริ่มบันทึก macro 10 คลิกตามที่ต้องการจะบันทึก. ตอนนี้ทุกการกระทำของคุณจะถูกบันทึกเข้าไปใน macro เช่น ถ้าใช้สูตร sum หาผลรวมของ A2 กับ B2 แล้วแสดงผลในเซลล์ C7 ต่อไปพอใช้ macro นี้ ก็เท่ากับใช้คำสั่ง sum A2 กับ B2 แล้วแสดงผลใน C7 เสมอ บางที macro ก็ซับซ้อน บางทีก็ใช้เปิดโปรแกรม Office อื่นๆ ได้ด้วย แต่สรุปก็คือเวลาบันทึก macro ทุกอย่างที่คุณทำใน Excel จะถูกบันทึกลงใน macro 11 เสร็จแล้วให้คลิก Stop Recording. เพื่อจบการบันทึกและเซฟ macro 12 เซฟไฟล์ในฟอร์แมตที่ใช้ macro ได้.
ท้ายหน้าต่าง เพื่อเซฟ spreadsheet ของ Excel ลงตำแหน่งที่ต้องการ โดยจะเซฟ macro ติดไปด้วย ส่วน 4 ของ 4: ใช้งาน Macro 1 เปิด spreadsheet ที่เปิดใช้ macro ไว้แล้ว. ดับเบิลคลิก spreadsheet ที่มี macro เพื่อเปิด spreadsheet นั้นขึ้นมาใน Excel คลิก Enable Content. ในแถบสีเหลือง ทางด้านบนของหน้าต่าง Excel เพื่อปลดล็อค spreadsheet แล้วใช้งาน macro ได้ ถ้าไม่เจอตัวเลือกนี้ ให้ข้ามขั้นตอนนี้ไป คลิก tab Developer. ที่เป็นตัวเลือกทางด้านบนของหน้าต่าง Excel หรือกดคีย์ลัดใช้ macro ตามที่กำหนดไว้ กดแล้ว macro จะทำงาน แล้วไม่ต้องทำขั้นตอนที่เหลือในวิธีการนี้ 4 คลิก Macros. ที่อยู่ใน toolbar ของ tab Developer แล้วหน้าต่าง pop-up จะเปิดขึ้นมา 5 เลือก macro. คลิกชื่อ macro ที่จะใช้งาน 6 คลิก Run. ทางขวาของหน้าต่าง แล้ว macro จะเริ่มทำงาน 7 รอจน macro ทำงานเสร็จ. แล้วแต่ว่า macro มีขั้นตอนเยอะแค่ไหน ก็ต้องรอหลายวินาทีขึ้นไป เคล็ดลับ ปกติ macro เหมาะจะใช้ทำขั้นตอนที่ต้องทำซ้ำๆ เยอะๆ โดยอัตโนมัติ เช่น คำนวณเงินเดือนท้ายอาทิตย์ คำเตือน ถึง macro ส่วนใหญ่จะปลอดภัยดี แต่บาง macro ที่คุณไม่ได้สร้างเอง ก็อาจอันตรายได้ โดยจะเข้ามาเปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูลในคอม เพราะงั้นห้ามเปิด macro ที่ได้จากแหล่งที่ไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัยเด็ดขาด เกี่ยวกับวิกิฮาวนี้ มีการเข้าถึงหน้านี้ 19, 327 ครั้ง บทความนี้เป็นประโยชน์กับคุณไหม
ถ้าเปิด workbook ว่างมา ก็ต้องพิมพ์ข้อมูลที่จะใช้ก่อน หรือปิด Excel แล้วเปิดไฟล์ Excel ที่ต้องการขึ้นมาโดยดับเบิลคลิก 2 คลิก tab Developer. ทางด้านบนของหน้าต่าง Excel เพื่อเปิด toolbar ขึ้นมา 3 คลิก Record Macro. ใน toolbar เพื่อเปิดหน้าต่าง pop-up 4 ตั้งชื่อ macro. ในช่อง "Macro name" ให้พิมพ์ชื่อ macro ตามต้องการ จะได้หาง่ายใช้ง่ายในภายหลัง 5 จะกำหนดคีย์ลัดด้วยก็ได้. กด ⇧ Shift พร้อมปุ่มตัวอักษรอื่น (เช่น E) เพื่อกำหนดคีย์ลัด แล้วกดคีย์ลัดนี้เพื่อใช้ macro ในภายหลัง ถ้าใช้ Mac คีย์ลัดจะเป็น ⌥ Option + ⌘ Command กับคีย์ที่กำหนด (เช่น ⌥ Option + ⌘ Command + T) 6 คลิกช่อง "Store macro in" ให้ขยายลงมา. กลางหน้าต่าง เพื่อขยายเมนูลงมา 7 คลิก This Workbook. ที่เป็นตัวเลือกในเมนูที่ขยายลงมา เพื่อเซฟ macro ใน spreadsheet ใครที่มี spreadsheet นี้ก็ใช้งาน macro ได้เลย 8 คลิก OK. ท้ายหน้าต่าง เพื่อเซฟ settings ของ macro แล้วเริ่มอัด 9 ทำขั้นตอนต่างๆ ที่จะให้ macro ทำ. อะไรที่คุณทำหลังคลิก OK แต่ก่อนคลิก Stop Recording จะถูกเพิ่มเข้าไปใน macro เช่น ถ้าจะสร้าง macro ที่เปลี่ยนข้อมูล 2 คอลัมน์เป็นแผนผัง ก็ให้ทำตามขั้นตอนต่อไปนี้ คลิกแล้วลากเมาส์คลุมข้อมูลเพื่อเลือก คลิก Insert เลือกรูปร่างของแผนผัง คลิกแผนผังที่จะใช้ 10 คลิก Stop Recording.
สอน Excel VBA: การเขียน VBA ฟังก์ชันเพื่อคำนวณว่าเกิดใน Generation ใด เช่น Gen X, Gen Y - YouTube