ขจัดคราบน้ำด่างเป็นรอย ถึงจะเป็นแค่คราบจากน้ำ ที่ไม่ใช่สิ่งสกปรกสะสมแต่ก็ต้องดูแลให้อยู่ในสภาพดีเสมอนะคะ ทำความสะอาดก๊อกน้ําที่เต็มไปด้วยรอยคราบด่างจากน้ำให้น่าใช้ใสปิ๊งง่าย ๆ ไม่ทำลายพื้นผิวด้วยการเช็ดด้วยน้ำเปล่าผสมน้ำส้มสายชู และล้างทำความสะอาดอีกครั้ง ก็จะได้ก๊อกน้ำออกมาใสเหมือนใหม่แล้วค่ะ 10. การดูแลตู้เก็บของในครัว การดูแลตู้เก็บถ้วยชามและเครื่องครัวให้สะอาดปราศจากกลิ่นอับก็เป็นอีกเรื่องที่จำเป็นมาก ถึงแม้จะเป็นส่วนที่ไม่ได้เจอกับคราบสกปรกโดยตรง แต่เพราะเป็นส่วนที่ใช้จัดเก็บทั้งเครื่องครัว ภาชนะต่าง ๆ รวมทั้งเครื่องปรุงจึงต้องดูแลให้สะอาด ไร้ฝุ่น ไร้กลิ่นและสิ่งสกปรก ด้วยการใช้น้ำยาสูตรฮิตจากน้ำส้มสายชูเช็ดทำความสะอาดอย่างสม่ำเสมอ และอาจใช้กากใบชาวางไว้ในตู้เพื่อลดกลิ่นอับที่อาจเกิดขึ้นได้ค่ะ
เคาน์เตอร์ครัวสะอาดเอี่ยม สำหรับเคาน์เตอร์ครัวที่ถูกใช้งานเป็นประจำควรเช็ดทำความสะอาดทุกครั้งหลังการใช้งาน ทว่าสำหรับคราบหนักฝังแน่นต้องจัดการด้วยน้ำยาทำความสะอาดสำหรับห้องครัว โดยเลือกชนิดน้ำยาทำความสะอาดที่เหมาะสมกับพื้นผิวเคาน์เตอร์ของคุณด้วย 11. ขจัดคราบอ่างล้างจาน ผสมน้ำอุ่นจัดกับน้ำยาล้างจานแล้วใช้ฟองน้ำชุบทำความสะอาดให้ทั่วบริเวณอ่างล้างจาน และต้มน้ำผสมน้ำยาล้างจานพร้อมทั้งน้ำส้มสายชูเล็กน้อย รอจนน้ำเดือดจัดจึงนำไปเทลงท่อน้ำทิ้งของอ่างล้างจานทันที เพื่อกำจัดทุกสิ่งอุดตันและคราบมันที่ตกค้าง 12. จัดการคราบน้ำด่างเป็นรอย คราบน้ำสีขาวที่ปรากฏอยู่บนก๊อกน้ำสามารถกำจัดได้ง่าย ๆ ด้วยน้ำผสมน้ำส้มสายชูอย่างละครึ่ง จากนั้นนำผ้าขนหนูมาชุบก่อนนำไปเช็ดก๊อกน้ำให้ทั่ว เสร็จแล้วเช็ดอีกครั้งด้วยผ้าชุบน้ำสะอาด 13. ทำความสะอาดเครื่องครัว เครื่องครัวอย่างไมโครเวฟและเครื่องปั่น รวมทั้งเครื่องครัวชนิดอื่น ๆ ควรนำออกมาทำความสะอาดด้วย โดยทางที่ดีให้ทำความสะอาดตามคำแนะนำจากคู่มือการใช้งาน ส่วนไมโครเวฟสามารถทำความสะอาดได้ง่าย ๆ ด้วยการบีบน้ำมะนาวผสมน้ำเปล่า นำไปอุ่นในไมโครเวฟด้วยอุณหภูมิสูงนาน 1 นาที จากนั้นใช้ฟองน้ำเช็ดคราบเปื้อนให้หมดจด 14.
เริ่มจากส่วนบนสุดก่อน เศษขยะหรือความสกปรกที่ติดอยู่ที่พื้นคุณควรกวาดทำความสะอาดมันตอนหลัง ใช้ที่ทำความสะอาดทางเดินเส้นรอบนอก มุมห้อง ของที่ตั้งติดอยู่กับที่ รวมถึงส่วนบนของชั้นวางของ อ่อ…อย่าลืมหลังตู้เย็นด้วยนะคะ 6. เช็ดถูชั้นวางของและไมโครเวฟ วางฟองน้ำเปียกไว้ในเตาไมโครเวฟ จากนั้นตั้งเวลา 2 นาทีแล้วปล่อยให้ไมโครเวฟทำงาน ระหว่างนั้นจุ่มผ้าขี้ริ้วในน้ำอุ่น น้ำสบู่และเช็ดประตู ที่ดึงตามตู้ ชั้นวางของ หรือของอะไรก็ตามที่วางอยู่บนพื้น เมื่อไมโครเวฟทำงานเสร็จ และฟองน้ำในเตาเริ่มอุ่นจนมือสามารถจับได้ ก็ใช้ฟองน้ำนั้นเช็ดทำความสะอาดภายในตู้ตัวไมโครเวฟ 7. ทำความสะอาดผิวด้านหน้าของอุปกรณ์ของใช้ต่างๆ ใช้ผ้าขี้ริ้วผืนอื่นจุ่มน้ำสบู่อุ่นๆ แล้วเช็ดด้านหน้าตู้เย็น เครื่องล้างจานและเตาอบ 8. เช็ดถูประตูชั้นวางของเตี้ยๆ และลิ้นชัก ใช้ผ้าขี้ริ้วจุ่มน้ำอุ่น หรือน้ำสบู่เช็ดทำความสะอาดอีกเช่นเคย 9. เทถังขยะและทำความสะอาด เช็ดทำความสะอาดถังขยะด้วยผ้าขี้ริ้วชุบน้ำก่อนจะวางถุงขยะลงไป 10. กวาดและถูพื้น ใช้ไม้กวาดหรือที่ปัดฝุ่นทำความสะอาดใต้ตู้ ตามมุมห้อง ดึงเฟอร์นิเจอร์ ข้าวของเครื่องใช้ออกมาหากจำเป็น จากนั้นตามด้วยการถูพื้น โดยเริ่มจากมุมที่ไกลจากทางเข้าของห้องมากที่สุดก่อน และที่สำคัญมากคือถ้าคุณใช้ไม้ถูพื้นควรมีถังน้ำด้วย
การทำความสะอาดห้องครัว ให้ไร้คราบ และปราศจากกลิ่น เพราะห้องครัวคืออีกห้องหนึ่งที่ช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับครอบครัว การดูแลรักษาและหมั่น ทำความสะอาดห้องครัว จึงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ ทุกครั้งหลังจากปรุงเมนูสุดโปรดเพิ่มพลังให้กับร่างกาย ก็อย่าลืมที่ต้อง ทำความสะอาดห้องครัว กันสักหน่อย เพราะไหนจะคราบจากน้ำมัน เครื่องปรุง และกลิ่นเศษอาหารอีก เพื่อสุขอนามัยที่ดีและเพื่อให้ห้องครัวสะอาดพร้อมใช้งาน จะพาไปสำรวจและลงมือทำความสะอาดครัว ให้ไร้คราบและกลิ่นไม่พึงประสงค์กันค่ะ 1. การกำจัดคราบน้ำมันบนผนัง หลังจากการปรุงอาหารทั้งผัดและทอด สิ่งที่เหลือไว้อยู่บนผนังห้องครัวก็คือคราบน้ำมันที่จะค่อย ๆ สะสมไปเรื่อย ๆ นั่นเพราะเราไม่สามารถขัดผนังได้ทุกครั้งหลังทำอาหาร จึงทำให้การทำความสะอาดแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ต้องออกแรงอยู่พอสมควร ดังนั้นการใช้น้ำยาล้างจานที่ช่วยขจัดคราบมันอย่างเดียวอาจไม่พอ แต่ควรเพิ่มน้ำส้มสายชูและผสมเข้ากับน้ำอุ่นเป็นน้ำยาเช็ดทำความสะอาด โดยขัดให้ทั่วและทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที ตามด้วยการเช็ดออกด้วยฟองน้ำหรือผ้าชุบน้ำสะอาดอีกครั้ง 2. ขจัดคราบทั่วไปด้วยสเปรย์น้ำส้มสายชู ไม่ว่าจะงานเล็กหรืองานใหญ่ แต่หลังการใช้ห้องครัวปรุงอาหารทุกครั้งก็ต้องเช็ดทำความสะอาดให้เรียบร้อยเสมอ ซึ่งการใช้สเปรย์น้ำส้มสายชูที่ผสมน้ำเปล่าในอัตราส่วนครึ่งต่อครึ่งฉีดพ่นบริเวณทั่วไปในครัว ตามด้วยการเช็ดทำความสะอาดก็เป็นวิธีที่ทำได้ง่ายโดยไม่ต้องรอให้ถึงวันหยุด ทั้งหลังจากการเตรียมมื้ออาหารธรรมดาหรือการทำความสะอาดบนหลังตู้ เคาท์เตอร์ครัวทั่ว ๆ ไป ก็หยิบมาใช้ได้เลยค่ะ 3.
ถอดหัวเตาออกมาทำความสะอาด ภาพจาก สำหรับเตาแก๊สที่ต้องคอยรับศึกหนักจากการปรุงอาหารแทบทุกเมนู ก็คงไม่แปลกที่จะมีคราบสกปรกสะสม การทำความสะอาดหลังจากถอดส่วนประกอบออกมาคือการเช็ดด้วยน้ำอุ่นที่ผสมกับน้ำยาล้างจานให้ทั่ว ส่วนหัวเตานั้นให้นำผ้าไปชุบน้ำแล้วบิดให้หมาดที่สุดเช็ดทำความสะอาดค่ะ อ่านแบบละเอียดที่นี่: การทำความสะอาดเตาแก๊ส 4. บอกลาคราบมันด้วยเบกกิ้งโซดา ภาพจาก มากำจัดคราบมันกวนใจในทุก ๆ พื้นที่ด้วย เบกกิ้งโซดา ตัวช่วยสารพัดประโยชน์ที่ไร้กลิ่น ไร้สารเคมีตกค้าง สามารถทำได้ตั้งแต่การนำมาผสมน้ำ แล้วทาทิ้งไว้ตามบริเวณที่มีคราบมันก่อนที่จะเช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง หรือจะใช้โรยบนอุปกรณ์ครัวรวมทั้งพื้นที่ที่เต็มไปด้วยคราบน้ำมันแล้วทิ้งไว้สักชั่วโมง ให้เบกกิ้งโซดาเป็นตัวช่วยดูดน้ำมันออกเพื่อให้ขัดง่ายขึ้นได้ค่ะ 5. วิธีกำจัดกลิ่นคาวในห้องครัว ภาพจาก เศษอาหารที่ถูกทิ้งสะสมไว้หลังจากปรุงอาหารและการล้างจานคือต้นตอของกลิ่นคาวที่เหม็นคลุ้งไปทั่วห้องครัว ขนาดนำไปทิ้งและ ทำความสะอาดห้องครัว แล้วก็ยังหลงเหลืออยู่ แต่เราสามารถใช้วิธีการผสมแอลกอฮอล์กับน้ำเปล่าอีกเล็กน้อยลงในขวดสเปรย์แล้วนำไปฉีดพ่นที่ถังขยะหรือมุมที่มีกลิ่นให้เจือจางลงได้ นอกจากนี้ยังสามารใช้เบกกิ้งโซดาโรยลงในถังขยะทุกเช้าเพื่อให้เป็นตัวช่วยดูดกลิ่นและกำจัดความชื้นได้อีกด้วย >>อ่านต่อหน้าถัดไป<<
ปัด กวาด เช็ด ถู เมื่อเคลียร์องค์ประกอบอื่น ๆ ในห้องครัวเกือบครบแล้ว คราวนี้ได้เวลามาจัดการทำความสะอาดพื้นที่โดยรวม โดยเริ่มแรกให้ปัดฝุ่นทุกพื้นที่ เน้นตามมู่ลี่ด้วย จากนั้นจึงค่อยกวาดฝุ่นให้สะอาดหรือจะดูดฝุ่นแทนก็ได้ ปิดท้ายด้วยการใช้ไม้ม็อบถูพื้นเป็นอันเรียบร้อย 15. นำขยะไปทิ้ง งานสุดท้ายให้คุณไล่เก็บขยะจากทุกส่วนใส่ถุงปิดปากถุงให้สนิท ก่อนนำออกไปทิ้งให้เรียบ แค่นี้ก็ปิดจ๊อบได้เลยจ้า ใครที่เคยเกี่ยงงานทำความสะอาดห้องครัวเพราะคิดว่ายุ่งยาก พอได้รู้วิธีทำความสะอาดห้องครัวอย่างล้ำลึกแบบนี้แล้วน่าจะกระตุ้นให้อยากทำความสะอาดห้องครัวได้ไม่มากก็น้อยเนอะ เรื่องที่คุณอาจสนใจ
Notice คุณต้องเข้าสู่ระบบเพื่อดำเนินการต่อ เข้าสู่ระบบ Facebook