ขับ รถ อย่างไร ให้ ปลอดภัย

คุณอาจจะเจอข่าวบ่อย ๆ ว่ามีคนนอนในรถยนต์แล้วเสียชีวิต เหมือนสาเหตุการตายของนานะ นางเอกในซีรีย์ดัง อย่าง I Hate You, I Love You ทำให้หลายคนกลัวการนอนหลับในรถไปเลย ดังนั้น จึงอยากจะให้คุณผู้อ่านนั้นปลอดภัยไว้ก่อน ด้วยการนำเทคนิคนอนหลับในรถอย่างไรให้ปลอดภัยมาฝากค่ะ ทำไมคนเสียชีวิตขณะ นอนหลับในรถ? นพ. ประภาส จิตตาศิรินุวัตร รองอธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส. ) กระทรวงสาธารณสุข (สธ. ) กล่าวว่า ประเทศไทยพบปัญหาประชาชนเสียชีวิตขณะนอนหลับในรถยนต์ที่ติดเครื่องยนต์และเปิดแอร์ทุกปี ปีละประมาณ 1 – 2 ราย ซึ่ง นพ.

กลับให้ได้ ไปให้ถึง ! ขับรถทางไกลอย่างไร ให้ปลอดภัยช่วงวันหยุดยาว

ร. บ. จราจรทางบก พ.

ใช้เกียร์ต่ำ ขณะขับรถขึ้นเขาควรใช้เกียร์ต่ำ หากเป็นรถเกียร์ออโต้ให้ใช้เกียร์ D1 หรือ D2 ขึ้นอยู่กับความชันของถนน ทั้งนี้การใช้เกียร์ต่ำ จะเป็นตัวช่วยส่งกำลังให้รถสามารถขึ้นหรือลงเนินและทางลาดชันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ทำให้รถไหลเร็วเกินไปจนเสียการควบคุม 2. ใช้ความเร็วประมาณ 50-80 กม. / ชม. เพราะถนนบนดอยมักมีทางโค้งและความลาดชัน ดังนั้นจึงควรใช้ความเร็วที่เหมาะสม ไม่ขับรถเร็วเกินไป โดยควรใช้ความเร็วประมาณ 50-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยเฉพาะใครที่ไม่ค่อยคุ้นทาง หรือไม่เคยขับรถขึ้นเขา-ลงเขามาก่อน นอกจากนี้ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้าประมาณ 30-50 เมตร เผื่อกรณีฉุกเฉินจะได้ขับรถหลบอย่างทันท่วงที 3. ห้ามใช้เกียร์ว่าง ขณะขับรถลงเขา ห้ามใช้เกียร์ว่าง หรือเกียร์ N เพื่อปล่อยให้รถไหลเองเด็ดขาด เพราะรถจะไหลลงเขาด้วยความเร็วสูงตามแรงโน้มถ่วง อาจทำให้รถเสียการทรงตัวได้ ทางที่ดีควรใช้เกียร์ต่ำ หรือเกียร์ D1 และ D2 เช่นเดียวกับตอนขึ้นเขา เพื่อเป็นการใช้แรงฉุดจากเครื่องยนต์ (Engine Brake) ในการช่วย เบรก 4. ห้ามเหยียบเบรกค้าง ห้ามเหยียบเบรกค้างนานๆ หรือเหยียบเบรกแช่ตลอดเวลา เพราะอาจทำให้ผ้าเบรกไหม้ และเสี่ยงต่อการเกิดเบรกแตก หรือเบรกไม่อยู่ได้ ทางที่ดีควรแตะเบรกเบาๆ เป็นระยะๆ ไปพร้อมกับการใช้เกียร์ต่ำ จะช่วยชะลอความเร็วลงให้เหมาะสม ที่สำคัญควรตรวจสอบ ระบบเบรก รถยนต์ก่อนออกเดินทางทุกครั้ง 5.

ขับรถเที่ยวหน้าฝน อย่างไรให้ปลอดภัย – บล็อกไดเร็ค เอเชีย ประเทศไทย (Directasia Thailand)

ลดความเร็ว นี่คือสิ่งแรกที่ควรทำเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก โดยเฉพาะฝนที่เพิ่งตกใหม่ ๆ เพราะฝนจะลงมาผสมกับคราบน้ำมันหรือฝุ่นต่าง ๆ บนพื้นถนน ซึ่งอาจทำให้มีความลื่นมากกว่าแค่พื้นเปียกธรรมดา การขับรถให้ช้าลงจะช่วยให้สามารถควบคุมรถ หรือการเบรกก็จะทำได้ง่ายขึ้นเช่นกัน 2. เปิดไฟส่องสว่าง หากต้องขับรถตอนฝนตกหนัก ทัศนวิสัยการมองเห็นลดลง ควรเปิดไฟหน้าเพื่อเพิ่มการมองเห็นทางด้านหน้า เพื่อให้รถคันที่ตามหลังสังเกตเห็นรถของเราได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ควรใช้ไฟสูงหรือไฟตัดหมอก 3. เว้นระยะห่างให้มากขึ้น เดิมทีในการขับรถปกติเราต้องเว้นระยะจากรถคันหน้าเพื่อความปลอดภัยหากเกิดเหตุฉุกเฉิก แต่ขณะที่ฝนตกเราจำเป็นต้องเพิ่มระยะห่างมากเป็น 2 เท่า เผื่อระยะในการเบรกบนพื้นถนนที่มีความลื่นมากขึ้น และยังเป็นการหลีกเลี่ยงน้ำที่อาจกระเด็นมาบดบังทัศนวิสัยการมองเห็นของเราได้ 4. ใช้เบรกอย่างระมัดระวัง เมื่อต้องขับรถในสภาพพื้นที่เปียก ระบบเบรกอาจไม่ตอบสนองได้ดีเหมือนกับตอนขับขี่บนพื้นถนนที่แห้ง การเหยียบเบรกแบบกะทันหันอาจไม่ใช่เรื่องที่ดี เราควรจะใช้การชะลอความเร็วช่วยแล้วค่อย ๆ แตะเบรกทีละนิดเพื่อไล่น้ำออกจากผ้าเบรก สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงเมื่อต้องขับรถตอนฝนตก 1.

เส้นทางจุดตัดทางรถไฟเป็นเส้นทางที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุในลักษณะรุนแรงถึงเสียชีวิตบ่อยครั้ง และมักเกิดจากความไม่คุ้นเคยและความไม่ชำนาญเส้นทางของผู้ขับขี่ และขาดทักษะ รวมทั้งความประมาทในการขับรถผ่านทางข้ามรถไฟ 1. หากต้องขับรถผ่านทางข้ามรถไฟให้เพิ่มความระมัดระวัง และโดยเฉพาะหากขับในเส้นทางที่ไม่ชำนาญ เพราะอาจทำให้เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุได้ โดยเฉพาะทางข้ามที่ไม่มีแผงกั้นทางรถไฟ รวมถึงการขับรถในช่วงกลางคืนที่ทัศนวิสัยในการมองเห็นเส้นทางไม่ดีควรระมัดระวังเป็นพิเศษ การขับผ่านจุดตัดทางรถไฟที่ไม่มีแผงกั้นและสัญญาณเสียงระวังรถไฟ ผู้ขับขี่ควรเพิ่มความระมัดระวังเป็นพิเศษ โดยเฉพาะจุดตัดผ่านข้ามทางรถไฟบริเวณเส้นทางโค้งและช่วงกลางคืน เส้นทางที่มีต้นไม้หรือวัตถุที่บดบังการมองเห็นขบวนรถไฟ โดยชะลอความเร็วและหยุดรถห่างจากทางรถไฟไม่น้อยกว่า 5 เมตร เมื่อเห็นว่าปลอดภัยแล้ว จึงจะขับรถผ่านไปได้ 2. ระมัดระวังได้ด้วยการหมั่นสังเกตป้ายเตือนสัญลักษณ์ทางรถไฟ หรือสังเกตลูกระนาด ว่าเส้นทางข้างหน้ามีจุดตัดทางรถไฟหรือไม่ เพื่อให้ระมัดระวังในการขับขี่เพิ่มขึ้น ควรชะลอความเร็วและหยุดรถก่อนถึงจุดตัดทางรถไฟ พร้อมมองซ้ายและขวาจนแน่ใจจึงค่อยขับรถข้ามจุดตัดทางรถไฟ และหากมีสัญญาณไฟจราจรบริเวณทางรถไฟ ไม่ควรหยุดหรือจอดรถคร่อมรางรถไฟเป็นอันขาด เพราะหากมีรถไฟวิ่งผ่านมา จะไม่สามารถเคลื่อนรถได้ทัน 3.

10 คำแนะนำการขับรถบรรทุกอย่างไรให้ปลอดภัย - D.T.C Enterprise

การขับขี่รถทางไกล เป็นสิ่งที่ควรระวังอย่างมาก 10 วิธีขับรถยนต์อย่างไรให้ปลอดภัย นี้จะช่วยให้คุณห่างไกลอุบัติเหตุ เดินทางและถึงที่หมายได้อย่างราบรื่น —————————————— สามารถสอบถาม หรือรับคำปรึกษาเพิ่มเติม ฟรี! ได้ที่นี่!!! โทรสอบถาม >>> 092-926-4144 Facebook >>> Line@ >>> @99Autocare

ขับรถหน้าฝนลุยน้ำท่วมอย่างปลอดภัย ไม่นำความเสียหายมาสู่รถคุณ

สวมหมวกกันน็อค อุปกรณ์สำคัญของผู้ขับขี่รถมอเตอร์ไซค์คือ หมวกกันน็อค คุณควรสวมหมวกกันน็อคเสมอที่ขับขี่ รวมถึงโดยสารมอเตอร์ไซค์รับจ้างก็ควรสวมหมวกด้วยเช่นกัน เพราะหากโชคร้ายประสบอุบัติเหตุ ศีรษะของคุณก็ยังมีหมวกกันน็อคคอยปกป้องศีรษะคุณไว้ 6. เคารพกฎจราจร สิ่งสำคัญเวลาขับขี่รถทุกประเภท ต้องเคารพกฏจราจรและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเสมอ ทั้งไฟสัญญาณ ไฟจราจร ไม่ขับรถย้อนศร หรือขับรถเร็วเกินอัตราที่กำหนดไว้ และที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ไม่ควรขับมอเตอร์ไซค์แบบผาดโผน ขับซิ่ง แซงซ้ายแซงขวา เพราะโอกาสรถชนมีสูงมาก 7. ตรวจสภาพรถมอเตอร์ไซค์สม่ำเสมอ รถมอเตอร์ไซค์เสียกลางทางก็มีโอกาสได้เช่นกัน เพราะหากคุณขับอย่างเดียวไม่ดูแลเครื่องยนต์เลย คุณจำเป็นต้องหมั่นเช็คสภาพเครื่องยนต์สม่ำเสมอ อย่างรถมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานมาแล้ว 4- 5 ปีมาแล้ว ก็ควรนำรถไปตรวจสภาพที่ สถานตรวจ ตรอ. เพื่อตรวจสอบรถมอเตอร์ไซค์ให้มีสภาพแข็งแรงได้ตามมาตรฐาน ลองนำเทคนิคขับขี่มอเตอร์ไซค์อย่างไรให้ปลอดภัยไปปฏิบัติตามกันดู รับรองว่าคุณจะขับขี่รถมอเตอร์ไซค์ถึงที่หมายไร้อุบัติเหตุอย่างแน่นอน ทั้งนี้ด้วยความรักและห่วงใยจาก สุดยอดมอเตอร์ อ่านบทความคุณภาพเพิ่มเติมได้ที่ Facebook icon Facebook Twitter icon Twitter LINE icon Line

  1. วิธีขับรถลุยน้ำท่วมอย่างไรให้เครื่องยนต์ไม่ดับ - MoneyGuru.co.th
  2. ขับรถเร็ว อย่างไรให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุต่อตัวเองและผู้อื่น - คาร์แทรค
  3. แป้ง la roche posay ตลับ ดำ เบอร์ 13 10
  4. ศาลา เขา ใหญ่ sala khao yai menu
  1. มิ นิ บัส มือ สอง ขอนแก่น
  2. ประกาศ ผล สอบ ราม คํา แหง ภาค ล่าสุด
Monday, 24-Jan-22 21:08:32 UTC